บริการ Outsource สต็อกสินค้าครบวงจร ลดค่าใช้จ่าย ปลอดภัย

คลังสินค้าให้เช่าที่ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์คลังสินค้าให้เช่าที่ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ 2

บริการจัดการสต็อกสินค้าครบวงจร ช่วยดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การนำเข้าสินค้า การจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ไปจนถึงการจัดส่งสินค้าให้ถึงปลายทาง พร้อมระบบ รายงานสต็อกออนไลน์แบบเรียลไทม์ และการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ลดต้นทุนการบริหารคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องกังวลเรื่องพนักงานคลังสินค้า แอดมินคลัง พนักงานขับรถ หรือค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกและเอกสารต่าง ๆ เราพร้อมดูแลทุกอย่างให้คุณ

ด้วยระบบการจัดการสมัยใหม่ คุณสามารถตรวจสอบประวัติการนำเข้า-ส่งออก รวมถึงสถานะสินค้าคงคลังได้ตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดข้อผิดพลาด

การเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างการสร้างคลังสินค้าเอง (In-house) กับการใช้บริการคลังสินค้าจากบริษัท Outsource

สร้างคลังเอง
Outsource
1

ต้นทุนเริ่มต้น

In-house

จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง เช่น การซื้อหรือเช่าที่ดิน การก่อสร้างคลัง การติดตั้งระบบจัดการคลังสินค้า รวมถึงค่าซื้ออุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น ชั้นวาง, รถยก และเครื่องมือจัดการสินค้า

Outsource

ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเริ่มต้นใหญ่ เพราะบริษัท Outsource มักมีระบบและสถานที่พร้อมใช้งานแล้ว ค่าใช้จ่ายจะเป็นค่าบริการรายเดือนหรือรายครั้งตามการใช้งาน.

2

ต้นทุนดำเนินงาน

In-house

ค่าดำเนินงานรวมถึงค่าแรงพนักงาน ค่าซ่อมบำรุงเครื่องมือ การบริหารจัดการ และค่าบริหารสินค้าคงคลัง (inventory management)

Outsource

ค่าใช้จ่ายจะเป็นค่าบริการรายเดือนหรือรายครั้งที่ขึ้นอยู่กับปริมาณสินค้าที่จัดเก็บ การขนส่ง และบริการเสริม เช่น การจัดการคำสั่งซื้อ หรือการบรรจุสินค้า

3

ความยืดหยุ่น

In-house

มีความยืดหยุ่นในแง่การควบคุมวิธีการจัดเก็บและการดำเนินงาน แต่เมื่อเกิดการขยายธุรกิจ ค่าใช้จ่ายในการขยายคลังเองก็จะสูง

Outsource

มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนขนาดตามความต้องการของธุรกิจได้ง่ายและรวดเร็ว แต่จะมีข้อจำกัดในบางแง่มุมตามเงื่อนไขของบริษัทที่ให้บริการ

4

การควบคุม

In-house

ธุรกิจจะสามารถควบคุมทุกขั้นตอนการดำเนินงานได้เองอย่างเต็มที่ ตั้งแต่การจัดเก็บ จัดส่ง และการตรวจสอบคุณภาพ

Outsource

การควบคุมจะน้อยลง เนื่องจากขึ้นอยู่กับการบริการและข้อตกลงกับบริษัท Outsource

5

การเพิ่มประสิทธิภาพและความเชี่ยวชาญ

In-house

ธุรกิจจะต้องลงทุนในด้านการฝึกอบรมพนักงานและปรับปรุงกระบวนการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

Outsource

บริษัท Outsource มักจะมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการจัดการคลังสินค้า จึงสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6

ค่าใช้จ่ายแฝง

In-house

อาจมีค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าเสียโอกาสจากการบริหารที่ไม่ดี หรือค่าบำรุงรักษาคลังในระยะยาว

Outsource

อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่ต้องการบริการพิเศษ หรือมีค่าปรับหากเกิดความล่าช้าในการชำระเงินหรือบริการนอกเหนือสัญญา

7

ความเสี่ยง

In-house

การบริหารคลังสินค้าเองมีความเสี่ยงด้านการลงทุน ความล้มเหลวของระบบ การดูแลรักษาความปลอดภัย และการจัดการความเสี่ยงจากภายในและภายนอก

Outsource

ความเสี่ยงส่วนหนึ่งจะถูกส่งต่อให้บริษัท Outsource ดูแล ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงด้านการจัดการของธุรกิจเอง แต่ก็ต้องเลือก Outsource ที่น่าเชื่อถือ

Key Takeaways

การสร้างคลังสินค้าเองจะมีความคุ้มค่าในระยะยาวสำหรับธุรกิจที่มีการดำเนินงานขนาดใหญ่ มีปริมาณสินค้าที่ต้องจัดเก็บจำนวนมาก และต้องการควบคุมทุกขั้นตอนของการดำเนินงานได้ด้วยตัวเอง

การใช้บริการ Outsource เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่น ไม่ต้องการลงทุนเงินก้อนใหญ่ในครั้งแรก และต้องการความเชี่ยวชาญและการจัดการที่มีประสิทธิภาพจากภายนอก